ติดต่อสอบถาม 038-320-300

5 สุดยอดอาหารอร่อย แต่เสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

นพ. จิตต์พัฒน์ ถนอมธีระนันท์

1.เนื้อย่างวากิว หมูคุโรบุตะย่าง

       ยิ่งติดมันยิ่งอร่อย อาหารยอดนิยม เมนูนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะนอกจากจะมีไขมันอิ่มตัวสูงแล้ว เนื้อวัวและเนื้อหมูยังเป็นสัตว์เนื้อแดงที่มีสารประกอบฮีโมโกลบิน ที่เรียกว่าฮีม (heme) หากรับประทานมากจะไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งให้เติบโต รวมถึงการปิ้งย่างยังเป็นวิธีปรุงสุกโดยมีไขมันหยดลงบนถ่านจนเกิดควัน  ทำให้เกิดสารโพลีไซคลิก อโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons- PAH) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง  หากรับประทานบ่อยๆ จะสะสมอยู่ในร่างกาย    ส่งผลให้ร่างกายเกิดการอักเสบเรื้อรัง    จนกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ในที่สุด หากเป็นเมนูโปรดจริงๆ หรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรตัดส่วนที่ไหม้เกรียมทิ้งก่อนรับประทาน อย่างไรก็ตามไม่ควรรับประทานในปริมาณมากและบ่อยจนเกินไป

 

2.ส้มตำปูปลาร้า

     รสจัดจ้านหอมอ่อนๆ ชวนน้ำลายสอ แต่เครื่องปรุงทั้งหลายสุ่มเสี่ยงสารก่อมะเร็งทั้งสิ้น ทั้งพริกแห้ง กระเทียมที่ขึ้นราง่าย รวมถึงปูเค็มและปลาร้า หากไม่ปรุงให้สุกอาจมีพยาธิใบไม้หรือไข่ของพยาธิที่สามารถมีชีวิตในร่างกายมนุษย์ เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งตับ ที่สำคัญยังพบด้วยว่าในปลาร้าอาจจะมีการใส่ดินประสิวเพื่อใช้ในการถนอมอาหาร ดินประสิวนี้จะมีสารไนโตรซามิน ซึ่งถือว่าเป็นสารก่อมะเร็งที่มีความรุนแรง ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะรับประทานปลาร้าดิบๆ เพราะจะเป็นการเพิ่มอัตราความเสี่ยงที่จะได้รับสารดังกล่าว

 

3.อาหารทะเลดิบกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด

    อาหารทะเลสดมักปนเปื้อนสารฟอร์มาลินจากการเก็บรักษา หากร่างกายได้รับสารฟอร์มาลินจนเกิดการสะสม จะส่งผลเสียกับระบบการทำงานของตับ ไต และหัวใจ นอกจากนี้ การรับประทานอาหารทะเลดิบๆ ยังเสี่ยงต่อการได้รับสารโลหะหนัก เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งได้ ซึ่งสารโลหะหนักพบมากในปลาทูน่า ปลาแมคคอเรล ทางที่ดีควรเลือกรับประทานอาหารทะเลที่มีโลหะหนักสะสมน้อย เช่น ปลาแซลม่อน หรือกุ้ง และควรผ่านการปรุงสุกด้วยการต้มหรือนึ่ง หลีกเลี่ยงการปิ้งย่างจนไหม้เกรียม ไม่ว่าจะปรุงสุกหรือทานดิบ สิ่งหนึ่งที่ควรรู้คืออาหารทะเลสามารถเพิ่มโลหะหนักได้

 

4.สารพัดยำ ยำแหนม ยำไส้กรอก ยำมาม่า

     อาหารรสแซบที่ขายตามท้องตลาด ขวัญใจคนลดความอ้วน ด้วยคิดว่าไม่ต้องรับประทานกับข้าวก็อิ่มได้ แต่การสั่งยำโดยมีพระเอกเป็นอาหารแปรรูปทั้งหลายนั้นกลับเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากขึ้น องค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบหลักฐานยืนยันว่า เนื้อสัตว์แปรรูป โดยการรมควัน อาหารหมักดอง รวมถึงการถนอมอาหารแบบต่างๆ มีโอกาสปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่  เนื่องจากอาหารแปรรูปทั้งหลายเต็มไปด้วยสารกันบูด แต่งกลิ่น ใส่สี ให้ดูสดใหม่และน่ารับประทาน  อีกทั้งยังมีโซเดียมไนเตรทและโซเดียมไนไตรท์ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่  หากอยากรับประทานยำ อาจเลือกเป็นยำผลไม้ไม่เค็ม ไม่ใส่กระเทียม ไม่ใส่ถั่วลิสงคั่ว แม้ไม่แซบนัว แต่ก็ช่วยลดโอกาสเสี่ยงโรคร้ายลงได้บ้าง

 

5.กล้วยทอด ปาท่องโก๋ ไก่ทอดร้อยกระทะ

      ของทอดกรอบๆ มันๆ ทำให้หลายคนอดใจไม่ไหว มักซื้อติดมือไปวางข้างคอมพิวเตอร์เป็นเพื่อนทำงานยามบ่าย แต่เพื่อนยากถุงนั้นอาจกลายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็งได้ จากการใช้น้ำมันทอดในอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายครั้ง ทำเกิดสารโพลีไซคลิก อโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons- PAH) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง หากรับประทานบ่อยก็จะสะสมอยู่ในร่างกาย  พึงเตือนตัวเองเสมอว่าอาหารทอดทำให้ร่างกายสะสมไขมันกลายเป็นความอ้วน และเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง  ควรรับประทานแต่น้อยหรือหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด  หากอดใจไม่ได้ให้เลือกซื้อร้านที่เปลี่ยนน้ำมันทอดทุกๆ วัน

 

      “การหมั่นสังเกตอุจจาระของตัวเองทุกวัน” เป็นการคัดกรองอาการป่วยเบื้องต้นแบบง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ อุจจาระที่เป็นลำสวยผิวเรียบคล้ายกล้วยหอม ไม่แข็งหรืออ่อนยุ่ยจนเกินไป ถือว่าเป็นรูปทรงอุจจาระที่สมบูรณ์และสุขภาพดีที่สุด และหากพบว่าอุจจาระมีสี กลิ่น หรือลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย แม้อาหารอร่อยคือความสุขอย่างหนึ่ง แต่หากรับประทานโดยไม่ยั้งคิดอาจกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคร้ายอย่างมะเร็งได้ในที่สุด การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นอาหารสะอาด ปราศจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อน รวมถึงใส่ใจวิธีการปรุงสุกที่ได้มาตรฐาน หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง และปรุงแต่งมากเกินไป เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์เฉพาะทางโรคตับ และระบบทางเดินอาหาร 

ชั้น 4 อาคาร C
โทร 038-320-300 ต่อ 4400-1

 

03 มีนาคม 2563

นพ. จิตต์พัฒน์ ถนอมธีระนันท์

ความเชี่ยวชาญ
ระบบทางเดินอาหารและตับ

แพ็คเกจที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด

บทความสุขภาพ

ดูทั้งหมด

นวัตกรรมการตรวจและการรักษา ไขมันคั่งสะสมในตับ

“ไขมันคั่งสะสมในตับ” เป็นสาเหตุโรคตับที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน และสามารถมีการดำเนินโรคไปเป็นตับแข็งและมะเร็งตับได้ รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงในการชี้วัดจากโรคหัวใจขาดเลือดและโรคตับ ในฉบับนี้จะขอกล่าวถึงวิธีการวินิจฉัยโรคและการรักษา การวินิจฉัยโรคไขมันคั่งสะสมในตับ ทางคลินิกมักจะอาศัยดูลักษณะกลุ่มโรค Metabolic syndrome คือ อ้วน, เบาหวาน, ไขมันในเลือดสูง มีค่า HDL ต่ำ และความดันโลหิตสูง ร่วมกับดูว่าไม่มีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดไขมันคั่งสะสมในตับ

ผู้เขียน: พญ.หนึ่งฤทัย ภิรมย์,นพ.จิตต์พัฒน์ ถนอมธีระนันท์,นพ.นนทพรรธน์  กันตถาวร,พญ.ปัทมา เกียรติภาพันธ์